เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต เร่งพลิกโฉมในแมนเชสเตอร์ เอดินบะระ และเลสเตอร์
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SET: SHR) ผู้นำด้านการบริหารงานโรงแรมและรีสอร์ตในไทย บริษัทในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) ประกาศความสำเร็จล่าสุดของกลยุทธ์ “3P” (Profit, Portfolio, Planet) ในสหราชอาณาจักร พร้อมลุยโปรเจกต์การปรับปรุงครั้งใหญ่ของโรงแรมหลายแห่งในเมืองสำคัญ รวมถึง โรงแรมเมอร์เคียว แมนเชสเตอร์ พิคคาดิลลี โฮเทล (Mercure Manchester Piccadilly Hotel) โรงแรมเมาท์ รอยัล โฮเทล เอดินบะระ (Mount Royal Hotel Edinburgh) และ โรงแรมแกรนด์ โฮเทล เลสเตอร์ (The Grand Hotel Leicester) พร้อมการอัพเกรดโฉมใหม่ให้กับโรงแรมอีก 8 แห่ง
สหราชอาณาจักรนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ SHR โดยคิดเป็น 65% ของห้องพักทั่วโลก ปัจจุบันมีโรงแรมใน
สหราชอาณาจักรรวมทั้งสิ้น 27 แห่ง จำนวน 2,940 ห้อง ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง เมอร์เคียว (Mercure) และ ฮอลิเดย์อินน์ (Holiday Inn) รวมถึงตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางทางธุรกิจและการพักผ่อนชั้นนำทั่วประเทศ
ภายใต้ “พอร์ตโฟลิโอ” (Portfolio) หนึ่งในกลยุทธ์ “3P” ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การหมุนเวียนและต่อยอดการลงทุนสินทรัพย์ (Asset Rotation & Enhancement) SHR กำลังเพิ่มศักยภาพสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรให้สูงสุดด้วยการขายสินทรัพย์ที่มีการเติบโตจนเต็มมูลค่าแล้วเพื่อนำรายได้จากการขายกลับมาลงทุนใหม่ เสริมด้วยการลงทุนเพิ่มเติมกว่า 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตราการเข้าพักสูงขึ้นมากกว่า 75% และ ADR เพิ่มขึ้น 10-15%
ในปี พ.ศ. 2564 SHR ได้ซื้อหุ้นเพิ่ม 50% ของโรงแรมในสหราชอาณาจักร 26 แห่ง และเข้าซื้อสัญญาเช่าหลัก (Head Lease) บนที่ดินโรงแรมเมอร์เคียว เพิร์ธ โฮเทล (Mercure Perth Hotel) โรงแรมจำนวน 76 ห้องในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การปรับปรุงประสิทธิภาพในสหราชอาณาจักร รวมถึงได้ขายโรงแรมอีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเมอร์เคียว นิวเบอร์รี แอลคอท พาร์ค (Mercure Newbury Elcot Park Hotel) โรงแรมเมอร์เคียว เบอร์ตัน อัพพอน เทรนต์ นิวตัน พาร์ค (Mercure Burton upon Trent Newton Park) และ โรงแรมเมอร์เคียว ลอนดอน วัตฟอร์ด (Mercure London Watford Hotel)
ขณะนี้ SHR กำลังเริ่มดำเนินการตามกลยุทธ์การปรับปรุงสินทรัพย์ในสินทรัพย์หลักหลายแห่งในสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง โดยโรงแรมเมอร์เคียว แมนเชสเตอร์ พิคคาดิลลี (Mercure Manchester Piccadilly Hotel)โรงแรมจำนวน 280 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ถือเป็นโรงแรมสำคัญที่ได้เริ่มต้นการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่แล้ว รวมถึงการอัพเกรดห้องพัก และพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งตอกย้ำการเป็นโรงแรมชั้นนำสำหรับการพักผ่อนและการประชุมต่าง ๆ ในแมนเชสเตอร์
สำหรับโรงแรมรอยัล เมาท์ เอดินบะระ ซิตี้ โรงแรมขนาด 169 ห้อง ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมในใจกลางประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงของสกอตแลนด์ และมองเห็นปราสาทเอดินบะระ การปรับปรุงครั้งใหม่จะครอบคลุมห้องพัก ล็อบบี้ ทางเดิน และส่วนหน้าของโรงแรม รวมถึง ‘Scott’s on Princes Street’ ร้านอาหารยอดนิยม ด้วยการผสานเสน่ห์แบบวินเทจของวัฒนธรรมสก็อตให้เข้ากับสถาปัตยกรรมโดยรอบ และใช้โทนสีของสวน Princes Street เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเอดินบะระ รวมทั้งประวัติศาสตร์วรรณกรรมของเมือง
ด้านโรงแรมเดอะแกรนด์ โฮเทล เลสเตอร์ (The Grand Hotel Leicester) มีห้องพักกจำนวน 104 ห้อง ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์วิคตอเรียนที่ได้รับการขึ้นทะเบียน Grade II ที่สวยงามตระการตา ตั้งอยู่ใกล้กับย่านวัฒนธรรมในใจกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาของเลสเตอร์ ขณะนี้มีการดำเนินการโครงการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งในส่วนห้องพักของโรงแรมและพื้นที่ส่วนกลาง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ SHR ได้ดำเนินการซื้อสิทธิการเช่าโรงแรมเมอร์เคียว กลาสโกว์ ซิตี้ โฮเทล (Mercure Glasgow City Hotel) โรงแรมขนาด 91 ห้อง ในราคา 7.5 ล้านปอนด์ ซึ่งจะช่วยปลดล็อคศักยภาพของโรงแรมได้อย่างเต็มที่ และจะตามมาด้วยการปรับปรุงห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางในปี พ.ศ. 2567
SHR ยังได้ลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของโรงแรมในสหราชอาณาจักรควบคู่ไปกับการอัพเกรด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การเข้าพักอันน่าประทับใจของแขก และขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดำเนินงานและเชิงพาณิชย์อย่างสูงสุด
เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ (Dirk De Cuyper) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ SHR ดังนั้นเราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยระยะล่าสุดของกลยุทธ์การปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอของเรา โรงแรมที่เรากำลังปรับปรุงมีทำเลที่ดีเยี่ยมภายในจุดหมายปลายทางทางธุรกิจและการพักผ่อนที่สำคัญ สิ่งนี้ทำให้ โรงแรมเหล่านี้เป็นทรัพย์สินที่สำคัญ และโครงการปรับปรุงนั้นจะช่วยเพิ่มศักยภาพสูงสุดให้กับโรงแรม นับจากนี้ไป เราจะเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอของเราต่อไป และใช้ประโยชน์จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวและการบริการในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มรายได้ของเราด้วย”
ปัจจุบัน SHR มีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือรวม 38 แห่ง ประกอบด้วยห้องพัก 4,552 ห้องใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไทย มัลดีฟส์ มอริเชียส และฟิจิ ด้วยกลยุทธ์ “3P” คาดว่าจะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำผู้ประกอบการโรงแรมไทยอันดับ 2 ในด้านรายได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท www.shotelsresorts.com หรือติดตามข่าวสารต่าง ๆ บน Facebook, Instagram, YouTube, LinkedIn