ดานัง
เมื่อวันที่ 27-28 มีนาคม 2009 นครดานังได้จัดงานเฉลิมฉลองวันปลดปล่อยนครดานัง อย่างยิ่งใหญ่ มีการแข่งขันจุดพลุนานาชาติ ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 และประเทศจีนได้ตำแหน่งชนะเลิศ

ไปดูแข่งขันพลุกัน เป็นจุดหมายแรกที่เดินทางมายังประเทศเวียดนาม นครดานัง ทั้งนี้ โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจากบริษัทนำเที่ยวในประเทศไทย การท่องเที่ยวนครดานัง และนักธุรกิจท่องเที่ยวในนครดานัง
เริ่มเดินทางจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงค่ำพร้อมกับน้องๆ จากทัวร์เอเย่นต์อีก 3 สาว มาถึงจังหวัดนครพนมตอนเช้าตรู่พอดี ขมีขมันเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแปรงฟันให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพื่อเตรียมรับการเดินทางโดยรถยนต์อีก 1 วัน
มื้อเช้าที่นครพนม ด้วยความเอื้อเฟื้อจากคุณสุรศักดิ์ มิ่งเจริญพาณิชย์ เจ้าของบริษัทก้าวไกลการท่องเที่ยว ได้ส่งลูกสาวมารับแล้วนำไปยังร้านอาหารเช้าแบบเวียดนามบนถนนธำรงประสิทธิ์ เป็นอาหารที่มีรูปลักษณ์เดียวกับข้าวเกรียบปากหม้อแต่แผ่นใหญ่กว่า ไส้หมูผัดห่อเหมือนเปาะเปี๊ยะสด กินกับน้ำจิ้มหวานใส่พริกต้มบดและเหยาะน้ำปลา อร่อยเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เชียว และยังมีการนำเอาข้าวเกรียบหน้าตาเหมือนข้าวเกรียบว่าว แต่รสชาติออกเค็มใส่งาด้วย มาหุ้มลงข้าวเกรียบปากหม้อแล้วหั่นพอคำ จิ้มน้ำจิ้มอย่างเดียวกัน อิ่ม(มาก)อร่อยกันแล้ว สาวน้อยเจ้าบ้านก็มารับไปส่งที่ท่าเรือ ที่นี่จึงได้พบกับเพื่อนร่วมเดินทางอีก 4 คน คุณสุรศักดิ์ เป็นผู้ประสานงานกับนครดานังในการนำพวกเราไปในครั้งนี้ พี่เปี๊ยก หรือวิชุกร กุหลาบศรี ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม พี่หมี สิทธิพันพันธ์ ตั้งตรงจิตรธนโชติ นายกสมาคมนักธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม และน้องสิริลดา บารมี จากทัวร์เอเย่นต์อีกคนหนึ่ง ![]() ![]() ![]() ![]() |
สาวน้อยใสดใสนเครื่องแบบนักเรียนมัธยม | จนย่างเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 เมืองนี้จึงกลับมาเจริญอีกครั้งภายหลังที่สภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมเมืองฮอยอันที่อยู่ใกล้เคียงกัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แม่น้ำหลายสายเปลี่ยนเส้นทาง เนื่องจากแม่น้ำทูโบนเกิดตื้นเขินและกีดขวางการสัญจรทางทะเล เมืองท่าดานังจึงได้รับการสร้างขึ้นมาแทนที่ในฐานะเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดในเขตภาคกลางของเวียดนาม ผลผลิตทางการเกษตรเด่นๆ ของจังหวัดนี้ได้แก่ อบเชยจากตรามี พริกไทยจากเตียนเฟือก ยาสูบจากกามเล ผ้าไหมจากฮวาวาง หญ้าฝรั่นจากตามกี และรังนกนางแอ่นจากหมู่เกาะนอกชายฝั่ง |
ปัจจุบันเมืองดานังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีตึกรามบ้านช่อง โรงแรมร้านอาหารสมัยใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพราะเป็นเมืองท่ามีความสะดวกในด้านการคมนาคมขนส่ง มีสนามบินนานาชาติดานังเป็นศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวในเขตภาคกลาง ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่โบราณสถานหมี่เซินที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลก พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมของจามที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อนยุคสมัยใด แหล่งหินอ่อนบนภูเขาธาตุทั้งห้า และชายหาดนอนเนื๊อกที่ชาวต่างชาติยกย่องว่าสวยงามไม่แพ้ชายหาดใดในโลก ทำให้ดานังไม่ได้เป็นแค่เมืองท่าริมแม่น้ำหานที่ใช้เพียงขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่งทุกมุมโลกอีกด้วย | บ้านเรือนร้านค้าในเมืองดานัง |
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ |
ภูเขาหินอ่อน หรือภูเขาธาตุทั้งห้า |
หญิงเวียดนามกำลังขัดเงาชิ้นประติมากรรมที่แกะสลักจากหินอ่อนขนาดใหญ่ | ภูเขาหินอ่อนตั้งอยู่อยู่ทางทิศใต้ของเมืองดานัง ประกอบด้วยเนินเขาน้อยใหญ่ 5 ลูก ชาวเวียดนามจึงเรียกอีกชื่อว่า ภูเขาแห่งธาตุทั้งห้า ภูเขาเหล่านี้เคยเป็นกลุ่มเกาะนอกชายฝั่ง แต่เนื่องมาจากการตกตะกอนทับถมกันปีแล้วปีเล่าทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ ภายในภูเขามีแท่นบูชาของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าองค์อื่นๆ ตามความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น และในภูเขา ถุ่ยเซิน ในอดีตชาวจามเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาอยู่ในปัจจุบันบริเวณหน้าทางขึ้นสู่ถ้ำ มีร้านค้าที่แกะสลักหินอ่อนเป็นรูปทรงและลวดลายต่างๆ ให้เลือกซื้อเลือกชม จากนั้นเดินผ่านบันไดทางขึ้นค่อนข้างชันมายังลานด้านบน มีทางเดินต่อไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองดานังท่ามกลางขุนเขาใหญ่น้อยได้อย่างสวยงาม ขากลับให้เดินลงอีกด้านหนึ่ง ไปยังจุดชมวิวที่มองเห็นผืนน้ำสีครามของท้องทะเลดานังได้กว้างไกลสุดตา และได้ชมเจดีย์ทรงเก๋งอีกด้วย |
พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม |
จามเป็นชนชาติที่รุ่งเรืองมาก่อนอาณาจักรใดๆ ในภูมิภาคนี้ จามเคยเป็นชาติใหญ่ มีอาณาจักรเป็นของตนเอง และเคยครอบครองดินแดนภาคกลางของประเทศเวียดนามมาก่อน ในราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 แต่ต้องเสื่อมสิ้นไปเพราะการรุกรานของคนเวียด และการทำศึกสงครามกับคนขอมหรือเขมร ในปัจจุบัน ชนชาวจามเป็นชนกลุ่มน้อยในเวียดนามและเขมร รวมทั้งในประเทศไทยด้วยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองดานัง ได้ทำการรวบรวมประติมากรรมแกะสลักหิน บางชิ้นก็เป็นรูปหล่อสัมริด จัดแสดงไว้มากมาย พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมของจาม ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยสถาบันวิจัยทางโบราณคดีของฝรั่งเศส (Ecole Francaise d Extreme Orient) เมื่อปี พ.ศ. 2479 นิทรรศการที่จัดแสดงไว้ตามห้องต่างๆ ที่สะท้อนถึงยุคสมัยทั้ง 4 ยุคตามแหล่งกำเนิดของอารยธรรม ได้แก่ หมี่เซิน ตราเกียว ด่งเดือง และทาพเมิม | ประติมากรรมแกะสลักหินที่สวยงามอ่อนช้อยของจาม |
อ่าวดานัง |
เรือกระจาดใช้ไม้ไผ่สานยาดัวยชัน | อ่าวดานัง (Danang Bay) อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองดานังขึ้นมาทางทิศเหนือราว 15 กิโลเมตร มีชายหาดทอดยาวขนานไปกับทิวเขาสลับซับซ้อน แม้ว่าที่นี่จะไม่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามเหมือนชายหาดนอนเนื๊อก แต่คุณจะได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่ใช้เรือกระจาดที่ใช้ไม้ไผ่สานทั้งลำ ยาด้วยชัน เป็นพาหนะล่องลอยเหนือผืนน้ำที่หาดูได้จากที่นี่เพียงแห่งเดียว อ่าวดานังเป็นหาดทรายสีน้ำตาลเข้ม เต็มไปด้วยเรือกระจาดที่จอดเรียงรายอยู่ริมชายฝั่ง ตลอดจนเรือที่ออกหาปลาอยู่กลางทะเล จึงเหมาะที่จะมาเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์อย่างเพลิดเพลิน |
หาดนอนเนื๊อก |

หาดนอนเนื๊อกอยู่ใกล้กับหมู่บ้านนอนเนื๊อก เป็นหาดทรายที่เงียบสงบและสวยงาม ทอดตัวยาวไปทางด้านทิศใต้ หาดไบเบียนนอนเนื๊อก หรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า หาดจีน อดีตทหารอเมริกันใช้เป็นแหล่งพักผ่อนในระหว่างพักรบช่วงสงครามเวียดนาม หาดจีนมีความสวยงาม ด้วยหาดทรายสีขาวละเอียดที่ทอดยาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม ริมหาดรายเรียงไปด้วยทิวมะพร้าว บรรยากาศเงียบสงบเหมาะทั้งลงเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ การเดินทางมาก็แสนสะดวกเพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีทั้งที่พักและร้านอาหาร ชาวเวียดนามนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้มาเยือนเมืองดานัง ก็มักจะมาเที่ยวชมความสวยงามที่ชายหาดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน |
บานา |
พระพุทธรูปหินอ่อนประดิษฐานอยู่บนยอดเขา | บานา ตั้งอยู่ในจังหวัด Hoa Vang ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากดานัง 40 กิโลเมตร อยู่บนภูเขา Chua สุงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,487 เมตร อุณหภูมิเฉลี่ย 17-20 องศาเซลเซียส ในบานามี 4 ฤดูใน 1 วัน ฤดูใบไม้ผลิในตอนเช้า ฤดูร้อนในตอนกลางวัน ฤดูอบอุ่นในตอนบ่าย และหนาวในตอนค่ำ ในหน้าฝน ฝนจะตกรอบๆ ที่เชิงเขาเท่านั้น แต่บนยอดเขาจะแห้ง และเมื่อขึ้นไปยังยอดเขาด้วยกระเช้าไฟฟ้าที่สร้างและปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย ก็จะสามารถชมวิวทิวทัศน์แบบพานอรามา มองเห็นเมืองดานัง ทะเล ทุ่งนา และป่าเขาที่สวยงาม |
ด้วยอากาศที่เย็นสบาย และแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บานา จึงเป็นเมืองที่ชาวฝรั่งเศสขึ้นไปสร้างวิลล่า ปราสาท และรีสอร์ทตากอากาศ ในสมัยที่เข้าครอบครองเวียดนาม ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อมาถึงยอดเขามีพระพุทธรูปหินอ่อนประดิษฐาน และวัดแบบศาลเจ้าจีนที่สวยงามให้เที่ยวชมในวันแรกที่เปิดให้ประชาชนขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่ปรับปรุงใหม่ คณะพรรคของเราก็มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวชมบนยอดเขา และเก็บภาพมาฝาก บริเวณโดยรอบบนยอดเขายังมีการก่อสร้างต่อเติมอีกหลายแห่ง ซึ่งมีทั้งโรงแรม ภัตตาคาร และอื่นๆ อีกมากมาย | ![]() |
ขอขอบคุณDanang Department of Culture,Sports and Tourism.ความเอื้อเฟื้อDanang Tourism Joint-stock CompanyในการเดินทางRoute 9 Travel Kao Klai Travel Fuji Tour Co.,Ltd. |